ท่านธมมวิตกโกได้ชื่อว่าเป็นคนพูดตรงอย่างยิ่ง เวลาท่านว่ากล่าวสั่งสอนใด ๆ จะไม่มีการอ้อมค้อมวกวน จะพูดอะไรท่านก็พูดออกมาตรง ๆ อย่างที่ท่านเองก็เคยกล่าวอยู่เสมอ ๆ ว่า
อาตมาคนวันเสาร์ พูดอะไรพูดตรง ๆ เป็นคนขวานผ่าซาก ขี้ก็บอกว่าขี้ พูดอย่างอื่นไม่เป็น
ฉะนั้นเวลาท่านเทศนาว่ากล่าวสั่งสอนใครแล้ว ท่านว่าเอาเจ็บ แรง ล้วนแต่แทงใจดำ ไม่มีการเกรงใจไว้หน้าใครผู้ใดทั้งนั้น
คนที่ไม่เคยทราบอัธยาศัยท่านมาก่อน พอโดนท่านดุหรือเอ็ดเข้า จึงมักจะกลัวลนลาน และรีบเผ่นหมดไม่อาจอยู่รอหน้าต่อไปได้
การที่ท่านว่ากล่าวใคร ๆ นั้น แม้จะเจ็บแรงอย่างใด ก็ล้วนเป็นไปด้วยความหวังดีมีเมตตาเป็นที่ตั้ง เพื่อให้จดจำไปนาน ๆ
คนที่ทราบอัธยาศัยท่านดี เล่าว่าอยากจะขอให้ท่านทำสิ่งใดแล้ว แม้จะถูกท่านดุด่าว่ากล่าวเจ็บ ๆ อย่างใด ก็ให้ทนไป และใช้วิธีหน้าทน ตื๊อ อยู่อย่างนั้น จะได้รับความสำเร็จสมปรารถนาแทบทุกครั้งไป
เช่นคราวหนึ่ง มีผู้เอาข้าวตอกพระร่วงมาเจียระไนเป็นพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ 2 องค์ กับพระเครื่องเนื้อนวโลหะสร้างใหม่ 2-3 องค์ มาถวายขอให้ท่านอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาให้เป็นการส่วนตัว ภายหลังที่ท่านสวดมนต์ทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว ก็ถูกท่านต่อเอาอย่างไม่ไว้หน้า เป็นเวลาช้านานถึงราว 1 ชั่วโมง จนคิดว่าจะไม่สมปรารถนาเสียแล้วในครั้งนี้
แต่แล้วพอท่านหยุดว่ากล่าวสั่งสอน และท่านหันไปกราบพระประธานในพระอุโบสถ เพื่อจะกลับกุฏิเสร็จแล้ว ท่านก็กลับนั่งลงใหม่แล้วเรียกให้เอาพระเครื่องเหล่านั้นไปถวายท่าน อย่างเสียไม่ได้ว่า
เอา-เอามา !
จากนั้นท่านก็อธิษฐานจิตและแผ่เมตตาให้สมหวังที่ได้ตั้งใจไว้กลับจากวัดออกมาด้วยความปลื้มปีติไปหลายวัน
ฉะนั้นคนที่ทราบอัธยาศัยท่านดี แม้จะถูกท่านดุว่าเจ็บ ๆ อย่างใด ก็จะทนสู้หน้าอยู่กับท่านให้ท่านว่ากล่าวอยู่อย่างนั้น จนพอแรงแล้วท่านก็จะแสดงความเมตตาออกมาให้เป็นที่ปลาบปลื้มสบายใจสมหวังแทบทุกคราวไป
ขอกลับมากล่าวถึงความปากจัดว่ากล่าวใคร ๆ อย่างไม่เกรงใจ ตามที่ท่านได้เคยสำแดงให้ปรากฏมาสัก 2-3 ราย
สุภาพสตรีฐานะดีคนหนึ่ง พาหลานสาวซึ่งไปเรียนวิชาเสริมสวยจากต่างประเทศ เพิ่งกลับมาถึงเมืองไทยได้ไม่กี่วัน ไปกราบท่านเพื่อขอพร ผลก็ปรากฏว่าถูกท่านว่ากล่าว จนแทบแทรกแผ่นดินหนี !
วิชาโกหลอกลวง! ท่านเอ่ยขึ้น ธรรมดาร่างกายก็ต้องแก่ไปตามวัย นี่กลับไปนั่งตกนั่งแต่งให้สวยงามขึ้นมาอีก เหลวไหวไม่ได้เรื่อง!
ทำเอาสุภาพสตรีผู้นั้นและหลานสาวซึ่งกำลังเบิกบานสำราญใจด้วยคิดว่าการที่ได้ไปร่ำเรียนวิชาเสริมสวยจนถึงเมืองนอกเมืองนามานั้น เป็นของโก้ของดีน่าภูมิใจ ต้องหน้าสลดไปทันที
คราวหนึ่ง ข้าราชการตำแหน่งค่อนข้างจะอาวุโสคนหนึ่ง คงจะเพิ่งกลับจากเที่ยวโสเภณีมาใหม่ ๆ หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ เข้าไปกราบนมัสการท่านเพื่อให้ขอช่วยแนะแนวทางการนั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานให้ ก็ปรากฏว่าถูกเอ็ดเอาอย่างไม่ไว้หน้าเหมือนกัน
คุณไปเที่ยวกะหรี่มาหรือเปล่านี่? ท่านเอ่ยถามขึ้น ทำเอาท่านผู้นั้นนิ่งงัน แล้วท่านก็สำทับต่อไปอีกว่า
แล้วคุณจะมานั่งกัมมัฏฐานได้เรื่องยังไง!
อีกคราวหนึ่งพระบวชใหม่ในวัดเทพศิรินทร์รูปหนึ่ง ผู้มีโยมบิดา-มารดาฐานะดี เรียนหนังสือไม่เก่ง พื้นฐานความรู้แย่มาก เข้ามหาวิทยาลัยเมืองไทยไม่ได้ จึงตั้งใจจะไปเรียนนอก เอาเรื่องมาบอกกล่าวท่าน
พอท่านซักไซร้ไล่เลียงถึงพื้นฐานความรู้พอสมควรแล้ว ท่านก็ให้ข้อคิดว่า
โอ! รากของคุณไม่มี คุณนี่ไม่มีรากแก้ว มีแต่รากฝอย อย่าไปเรียนเลย
..
แล้วท่านก็กล่าวในที่สุดว่า ถ้าคุณไป จะผลาญเงินพ่อแม่เปล่า ๆ ทำเอาพระรูปนั้นนั่งงงคอตกไปเลย
......................................