ความสัมพันธ์กับสมเด็จพระสังฆราช
ทุกปีหลังวันเข้าพรรษา สมเด็จพระสังฆราชจะเสด็จมาที่กุฏิของเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เพื่อถวายสักการะพระรูปและอัฐิของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ หลังจากนั้นจะประทับและทรงมีรับสั่งกับเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ก็มักจะมีเรื่องราวความรู้ต่าง ๆ เล่าถวายเสมอ เรื่องราวเหล่านั้นล้วนเป็นที่พอพระทัยถึงขนาดที่ครั้งหนึ่งทรงออกพระโอษฐ์ว่า มาที่นี่ได้ความรู้ พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ จดเรื่องราวต่าง ๆ ที่เล่าหรือทำสำเนาตามไปถวายที่วัดบวรนิเวศวิหารเสมอ คณะสงฆ์วัดเทพศิรินทราวาสต่างทราบกันดีว่าเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ มีความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช อย่างหาที่เปรียบมิได้ ครั้งหลังสุดที่เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชเสด็จมาที่กุฏิ สุขภาพของเจ้าประคุณสมเด็จ ฯทรุดโทรมลงมาก แต่ก็เตรียมการรับเสด็จอย่างแข็งขันในวันนั้นเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ก้มกราบที่พระบาทของเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชและกราบทูลว่า เกล้า ฯ เคยจงรักฝ่าพระบาทอย่างไร ก็ยังคงจงรักภักดีอยู่อย่างนั้น และจะจงรักภักดีต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ทุกครั้งที่เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชเสด็จกลับ เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ จะตามไปส่งเสด็จจึงถึงรถพระประเทียบและจะก้มลงกราบที่พระเพลาอย่างนอบน้อม นับเป็นภาพอันงดงามที่ใครได้เห็นก็ยากจะลืม
เคร่งครัดในพระธรรมวินัย
เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เป็นผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ไม่ยอมประพฤติล่วงพระบัญญัติ แม้ในสิ่งที่ผู้อื่นโดยมากเห็นว่าเล็กน้อย เป็นผู้สำรวมในศีลให้บริสุทธิ์ไม่บกพร่องด่างพร้อยแต่ประการใด จึงไม่มักง่ายในความเป็นอยู่ ท่านอ้างว่าท่านเป็นผู้ช่างสงสัย หากไม่แน่ใจแม้ดอกไม้เพียงกำเดียวท่านก็ขอคืน ท่านปรารภว่าเป็นพระหากโกงเงินแม้เพียงเล็กน้อยก็ปาราชิก ก่อนออกไปประกอบภารกิจน้อยใหญ่เช่นไปสวดมนต์ในวัง ไปเทศน์ที่โบสถ์ แม้แต่ก่อนจำวัดทุกคืน ต้องเรียกพระใกล้ชิดมารับปลงอาบัติย่อ ท่านหมั่นตรวจทานศีลในตนเองอยู่เสมอ ท่านจึงเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่เป็นนิจ ในข้อนี้ต้องนับว่าท่านเป็นผู้ตรงไปตรงมา ไม่มีแง่งอนมายาเป็นปฏิปทาของสงฆ์ข้อ อุชุปฏิปันโน ที่ใช้ความซื่อตรงเป็นเครื่องเพ่งเล็งความประพฤติของตนเองดังที่ท่านเคยปรารภเป็นเชิงสอนว่า พระธรรมนั้น ท่านเป็นของซื่อของตรง ผู้ปฏิบัติตามท่าน ต้องเป็นคนซื่อคนตรงด้วย จึงจะไปกับท่านได้ เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เป็นพระที่สมถะ เรียบง่าย ไม่ชอบข้องเกี่ยวกับใคร ยินดีในการอยู่คนเดียวอย่างสงบในชีวิตจึงไม่เคยไปต่างประเทศ ไม่เคยท่องเที่ยว ท่านเป็นผู้สันโดษพอใจในความเป็นอยู่ของตน เป็นผู้มัธยัสถ์ ผ้าสงบที่ใช้ประจำที่กุฏิเก่าจนซีด เป็นผู้ไม่สะสมในห้องจำวัดนอกจากผ้าสามผืน มีเพียงเตียงไม้ตัวเดียวกันผ้าห่มเป็นผ้าปูรองนอนหมอนที่รองศีรษะก็ทำจากผ้าห่มม้วนเป็นก้อน ตั้งแต่หนุ่มจนชราภาพไม่เคยดูทีวีไม่ฟังวิทยุ นิยมในการตีตรองธรรมและความรู้ด้วยตนเองเสมอ เมื่อสุดท้ายของสังขารท่านถูกโรคภัยเบียดเบียนถึงเดินไม่ได้ แต่มักนั่งตรึกธรรมและความรู้ต่าง ๆ ลงในสมุดบันทึกเล่มใหญ่ วัตรปฏิบัติน่าเลื่อมใสน่ากราบไหว้ของท่านข้อนี้เป็นคุณสมบัติอันเด่นชัดของผู้เป็นพระวันรัตโดยแท้
ท่านเป็นบัณฑิตนักปราชญ์ เป็นนักภาษาศาสตร์โดยคุณวุฒิ ธรรมสุดท้ายที่ท่านให้ติดข้างที่นอนใช้ชำระถอดถอนกล่อมเกลาจิตใจของตนเอง จึงงดงามด้วยภาษาและลึกซึ้งดังความว่า
ข้อซึ่งว่ามรรคละกิเลสนั้น ประสงค์เอากิเลสซึ่งควรบังเกิดในขันธ์ทั้ง ๕ มีรูปเป็นต้น ซึ่งเป็นภูมิแห่งวิปัสสนาที่ชื่อว่า ภูมิลัทธูปปันนกิเลส กิเลสมีภูมิคือขันธ์ ๕ อันได้แล้วบังเกิดขึ้น ดังรสแห่งปฐวีธาตุแลอาโปธาตุอันซาบอยู่ในรากไม้ ลำต้น กิ่ง ใบ ดอกผลทั้งปวงฉะนั้น มรรคเมื่อเกิดในขันธสันดานแห่งท่านผู้ใดแล้วขันธสันดานแห่ง (ท่าน) ผู้นั้นได้ต้องสัมผัสแห่งมรรคที่เกิดขึ้นนั้น ขันธสันดานแห่งท่านผู้นั้นชื่อว่าเป็นขันธสันดานอันตาย ด้วยตายแห่งกิเลสแล้ว ไม่สืบผล คือกุศลากุศลต่อไปดังต้นไม้มีดอกและผลอันเป็นพิษ บุรุษผู้หนึ่งตอกต่อยด้วยหนามกระเบนดันอาบด้วยยาพิษในทิศทั้ง ๔ ต้นไม้นั้นเมื่อต้องสัมผัสแห่งยาพิษแล้วก็ตายด้วยรสแห่งปฐวีธาตุ อาโปธาตุซึ่งซึมอาบนั้น แห้งหายไปด้วยสัมผัสยาพิษนั้นแล้ว เป็นต้นไม้ไม่เผล็ดดอกออกผลได้ต่อไปฉะนั้น
ครั้งหนึ่งเคยมีคนถามท่านว่า ทำอย่างไรจึงเก่ง ท่านแนะนำหลักง่าย ๆ ว่า gradually and steadly ค่อย ๆ และสม่ำเสมอ ท่านเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่าพญาครุฑบินข้ามประเทศมีค่าเท่ามดเดินข้ามประเทศ เมื่อต้องการรู้อะไรต้องดูให้ถึงรากเหง้าและที่สำคัญต้องรู้จักสังเกต ความสังเกตเป็นเหตุให้เกิดปัญญาท่านสรรเสริญคุณค่ามหาศาลของการรู้จักสังเกต
...............................................................................................