พระเครื่องทั้งหมด 3760 ชิ้น
ตะกร้าพระเครื่อง : ( 0 )
สารบัญหลัก
พระท่านเจ้าคุณนรฯ (1382) พระเครื่องอื่น ๆ (964) เครื่องรางของขลัง (10) พระบูชา (67)
บทความ
ประวัติสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
ประวัติท่านเจ้าคุณนรฯ
ประวัติสมเด็จพระวันรัต
ตำนานพระพุทธรูป
หลัการดูพระเบื้องต้น
เปิดโลกสมเด็จ
เปิดโลกพระกรุ
ทำเนียบสมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติการสร้างพระเครื่อง
อ่านบทความทั้งหมด
กระดานสนทนา
เว็บบอร์ดพระวัดเทพศิรินทราวาส เว็บบอร์ดพระทั่วไป ซื้อขายแลกเปลี่ยน
เมนูช่วยเหลือ
วิธีการบูชา วิธีการชำระเงิน คำถาม-ตอบ เกี่ยวกับเรา แผนที่ร้านฯ ติดต่อเรา นโยบายคุกกี้
อัตราแลกเปลี่ยน
ตรวจสอบการจัดส่งสินค้า
 
ชำระผ่านธนาคาร ธ.ไทยพาณิชย์ 114-2-16175-0 ธ.กรุงเทพ 905-0-00725-2 ธ.กรุงไทย 086-037-0-04433-9


ความสัมพันธ์กับสมเด็จฯ


ความสัมพันธ์กับสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์

          เหตุที่ท่านธมฺมวิตกฺโกเลือกเอาวัดเทพศิรินทราวาสเป็นสำนักเพื่อการอุปสมบท ทั้ง ๆ ที่บ้านท่านก็อยู่ใกล้กับวัดโสมนัสฯ เมื่อแรกเรียนหนังสือก็เรียนอยู่ในวัดโสมนัสฯ ท่านและโยมบิดา-มารดาเคยมีความสัมพันธ์กับวัดโสมนัสฯ เป็นอันดีตลอดมา ตลอดทั้งการที่ท่านได้เลือกเอาท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเถระ) เป็นอุปัชฌาย์ ในการตัดสินใจ "บวชหน้าไฟ" เพื่ออุทิศกุศลถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2468 (ถ้านับอย่างปัจจุบันก็จะเป็นปี พ.ศ. 2469 แล้ว) นั้น 
          นอกจากจะแอบสังเกตดูลายมือของพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในสมัยนั้น เวลาที่ท่านเข้าประเคนของถวายหรือขอดูโดยตรงจากพระเถระบางองค์ตามที่โอกาสจะอำนวย จนกระทั่งมาพบลายมือท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์และได้ดูลักษณะทุกอย่าง จึงได้ตกลงใจเลือกเอาท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เป็นพระอุปัชฌาย์ในการบวชดังเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว 
          ยังได้ทราบจากคำบอกเล่าของญาติผู้ใกล้ชิดของท่านมาอีกทางหนึ่ง เป็นข้อเท็จจริงที่แปลกออกไปจากเรื่องที่ทราบกันมาแล้ว แต่เป็นเรื่องที่น่ารับฟังไว้จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟังไว้ ณ ที่นี้บ้าง 
          ระหว่างที่มีการบำเพ็ญกุศลเนื่องในงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 นั้น ได้มีการทำบุญถวายสลากภัตเพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลเป็นประจำทุก 7 วัน ในพระบรมมหาราชวัง โดยได้กำหนดให้ข้าราชบริพารชั้นพระยาพานทองสายสะพายรับเป็นเจ้าภาพ จัดเครื่องไทยธรรมถวายพระที่ไปในโอกาสนั้นด้วยการจับฉลาก 
          ท่านธมฺมวิตกฺโกหรือเจ้าคุณนรรัตนฯ ในเวลานั้น บังเอิญจับสลากได้พระดีคือ ได้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ซึ่งขณะนั้นยังดำรงสมณศักดิ์เป็นพระศาสนโสภณ เจ้าคณะรองคณะธรรมยุตินิกาย ก็เลยเกิดศรัทธาในรูปโฉมของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ที่ละม้ายคล้ายพระสิริโฉมของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ซึ่งมีความเคารพและภักดียิ่งชีวิต กล่าวอย่างธรรมสามัญก็คือ เจ้าประคุณสมเด็จฯ มีรูปร่างอ้วน ขาว และศรีษะล้านละม้ายกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างมาก 
          จากรูปโฉมนี้เองเป็นจุดแรงที่โน้มเหนี่ยวให้เกิดศรัทธา กอปรกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ องค์นั้น มีบุคลิกและอัธยาศัยสุภาพ สุขุม นุ่มนวลละมุนละมัยเป็นที่ประทับใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็น และได้มีโอกาสสนทนาวิสาสะด้วย เป็นสมณะที่สงบและเคร่งครัดต่อการประพฤติปฏิบัติเป็นอย่างยิ่งรูปหนึ่ง และเป็นพระเถระที่มีเมตตาเป็นอย่างสูงแก่ทุก ๆ คนไม่เลือกหน้าว่าจะมั่งมีหรือยากจน จะเป็นคนชั้นสูงหรือชั้นต่ำ ฯลฯ 
          จากรูปโฉมและบุคลิกปฏิปทาของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ดังกล่าว ได้ทำให้เจ้าคุณนรรัตนฯ บังเกิดศรัทธาและเคารพเลื่อมใสในองค์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นยิ่งนัก 
          ดังนั้นพอเสร็จกิจพิธีถวายสลากภัต เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลในวันนั้นแล้ว ท่านก็ตามไปส่งท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จนถึงวัดเทพศิรินทราวาสเลยทีเดียว และก็คงจะได้ไปมาหาสู่เป็นประจำตั้งแต่นั้นมาพร้อมกับได้ตัดสินใจเลือกท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นอุปัชฌาย์ ด้วยเชื่อมั่นว่าได้เลือก "พ่อ" ในเพศใหม่คือเพศบรรพชิตที่เพรียบพร้อมเหมาะสมถูกใจเป็นอย่างยิ่งจริง ๆ แล้ว 
          พอถึงวันถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 24 มีนาคม 2468 ท่านก็เข้ารับการบรรพชาอุปสมบทจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ภายในพระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาส เพื่อน้อมเกล้าฯ อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นั้น เป็นการบวชอย่างที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "บวชหน้าไฟ" 
          พอบวชเสร็จแล้ว ค่ำวันนั้นท่านก็ได้ไปร่วมในพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวง พร้อมกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ อุปัชฌาย์ 
          เกี่ยวกับองค์อุปัชฌายะคือ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเถระ) นั้น ท่าน ธมฺมวิตกฺโกมีความเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง ได้เพียรพยายามประพฤติปฏิบัติตามคำอบรมสั่งสอนอย่างเคร่งครัด พระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่งเล่าว่าทุกครั้งที่ท่านธมฺมวิตกฺโกเดินผ่านกุฏิสมเด็จซึ่งอยู่หลังพระอุโบสถนั้น ท่านจะต้องพนมมือไหว้ด้วยความเคารพนอบน้อมทุกคราวไป และท่านไม่เคยสวมรองเท้าผ่านกุฏิท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เลย 
          เมื่อสมเด็จพระอุปัชฌายะถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2494 ในวันพระราชทานเพลิงศพ ณ สุสานหลวงวัดเทพศิรินทราวาส เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2495 นั้น ท่านธมฺมวิตกฺโกได้เดินตามกระบวนแห่โกศศพสมเด็จพระอุปัชฌาย์ไปตามถนนกรุงเกษมเลี้ยวเข้าถนนหลวงและถนนพลับพลาไชยตามลำดับ จนกระทั่งถึงเมรุ ซึ่งคิดว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ท่านออกไปเดินถึงบริเวณนอกเขตวัด หลังจากที่มิได้ย่างกรายออกมาสู่โลกภายนอกเลยเป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้ว 
          เล่ากันว่าขณะที่ท่านได้เดินย่างเหยียบลงไปบนพื้นถนนที่ลาดด้วยยางตามแบบอย่างของถนนสมัยใหม่ ท่านได้กล่าวพึมพำออกมาว่า 

          "เมื่อก่อนไม่มีอย่างนี้นี่"

          ทุกวันที่ 8 มิถุนายน ที่เวียนมาถึงของแต่ละปี ซึ่งทางวัดเทพศิรินทราวาสได้จัดงานบำเพ็ญกุศล เนื่องในวันคล้ายวันมรณภาพของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นประจำทุกปีนั้น เวลาเช้าจะมีการอัญเชิญโกศอัฐิของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จากกุฏิสมเด็จมายังพระอุโบสถเพื่อบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ตอนเย็นก็จะอัญเชิญกลับ ในการนี้ท่านธมฺมวิตกฺโกได้ไปร่วมในการเดินส่งอัฐิสมเด็จพระอุปัชฌาย์นี้ทั้งขาไปและขากลับเป็นประจำทุกปีไม่เคยขาด 
          นอกจากนี้ยังรับเป็นเจ้าภาพเครื่องไทยธรรมสำหรับถวายพระสงฆ์ที่มาเจริญพระพุทธมนต์และพระสงฆ์ที่มาแสดงพระธรรมเทศนาในการนี้เป็นประจำ 
          จากการสังเกตของพระภิกษุสงฆ์บางรูปในวัดเทพศิริทราวาสเล่าว่า ในการกราบพระประธานในพระอุโบสถนั้นจะเห็นท่านธมฺมวิตกฺโกกราบครั้งที่ 1-2 อันเป็นการคารวะต่อพระพุทธ พระธรรม ตรงไปยังพระประธาน พอจะกราบครั้งที่ 3 อันเป็นการคารวะต่อพระสงฆ์นั้น ท่านจะเฉียงทิศกราบมุ่งไปยังรูปหล่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระอุปัชฌายะ ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถเป็นประจำ 
          ความกตัญญูของท่านธมฺมวิตกฺโกที่มีต่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จอุปัชฌาย์นั้นสนิทแน่นสม่ำเสมอ ดังเสมือนความกตัญญูของพระสารีบุตร องค์อัครสาวกของสมเด็จพระบรมศาสดาที่มีต่อพระอัสสชิในครั้งพุทธกาลนั่นทีเดียว 
          ในการประกอบพิธีสวดอธิษฐานจิตครั้งใหญ่ทุกคราว จะต้องอัญเชิญรูปถ่ายของท่านเจ้าประคุณสมเด็จอุปัชฌาย์ไปประดิษฐานอยู่ที่หน้าฐานชุกชีพระประธานในพระอุโบสถเพื่อให้ท่านได้กราบสักการะและอธิษฐานจิตทุกครั้งไป 
          ในการรับเป็นเจ้าภาพเครื่องไทยธรรมสำหรับการบำเพ็จกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระอุปัชฌายะของทางวัดเป็นประจำแต่ละปีนั้น บางปีท่านได้คิดนามใหม่อันไพเราะและเป็นมงคลยิ่งถวายแด่สมเด็จพระอุปัชฌายะเพื่อให้สมกับวัตรปฏิบัติและความเคารพอย่างสูงสุดในสมเด็จฯ องค์นั้น เพื่อให้ทางบ้านจัดการเขียนลงในซองปัจจัยถวายพระในโอกาสนั้น มีหลายอย่างต่าง ๆ กัน เป็นต้นว่า
          "สมเด็จพระพุทธญาณวรวิสุทธิ์มหาเถวรจารย์เจ้า ณ เทพศิรินทราสุทธาวาส" 
          "สมเด็จพระพุทธญาณวรอมตวิสุทธิโลกุตตราจารย์ เทพศิรินทราสุทธาวาส" 
          จากนามใหม่ที่ท่านคิดถวายสมเด็จพระอุปัชฌาย์เช่นนี้ แสดงว่าท่านมีความเชื่อมั่นในท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ว่าเป็นอริยสงฆ์สาวกผู้บริสุทธิ์แล้วแน่นอน 
          เคยมีผู้สนใจกราบเรียนถามท่านอยู่เหมือนกันว่าทำไมท่านจึงได้ตั้งชื่อใหม่แปลก ๆ ถวายแด่สมเด็จพระอุปัชฌาย์เช่นนี้ ก็ได้รับคำตอบจากท่านว่า 
          "สมเด็จฯ ท่านไม่ใช่พระธรรมดานะ" 
          เมื่อปี พ.ศ. 2510 ได้มีผู้สร้างเหรียญรูปเหมือนไปถวายให้ท่านสวดอธิษฐานจิตในพระอุโบสถ ท่านได้กล่าวเป็นเชิงตัดพ้อต่อว่า 
          "ไม่สมควรเพราะอาตมายังอยู่ อาตมายังไม่สิ้น" แล้วท่านก็กล่าวเป็นเชิงแนะนำต่อไปว่า 
          "ควรจะสร้างรูปสมเด็จฯ ซี" พูดพลางท่านก็ชี้ไปยังรูปหล่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ซึ่งประดิษฐานอยู่ทางด้านซ้ายเบื้องล่างของพระประธาน 
          "เพราะสมเด็จฯ ท่านเป็นอริยบุคคลแล้ว" 
          จากคำกล่าวของท่านธมฺมวิตกฺโกนี้ แสดงว่าสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเถระ) จะต้องบรรลุธรรมขั้นสูงเป็นพระอริยสงฆ์แล้วแน่นอน เพราะสมณะอย่างท่านธมฺมวิตกฺโกผู้เคร่งครัดต่อศีลาจารวัตรอย่างเด็ดเดี่ยวนี้จะไม่มีวันกล่าวเท็จหรือกล่าวคาดคะเน อย่างที่บุคคลทั่วไปมักประพฤติปฏิบัติกันอยู่เป็นอันขาด ทุกอย่างที่ท่านพูดออกมาจะต้องเป็นเรื่องจริงเป็นความจริงทั้งสิ้น 
          ก็โดยเหตุดังกล่าวมานี่แหละ ที่ทำให้ผู้สนใจในธรรมที่ทราบเรื่องดีมีความเชื่อมั่นโดยสนิทใจว่า ท่านธมฺมวิตกฺโกก็ต้องเป็นพระอริยบุคคลแล้วแน่นอนเช่นกัน 
          ทั้งนี้ก็เพราะตามหลักทางธรรมนั้น พระสงฆ์ที่สำเร็จธรรมขั้นสูงเป็นพระอริยบุคคลแล้วเท่านั้นที่จะสามารถหยั่งทราบได้โดยแน่ชัดว่า พระสงฆ์หรือสมณะรูปอื่นใดบ้างที่พระอริยบุคคล ดังที่ชอบกล่าวกันอยู่โดยทั่วไปว่า "อรหันต์ย่อมรู้ในอรหันต์" 
          บุคคลประเภทอื่นใดที่ยังเป็นปุถุชนกิเลสหนาอยู่ จะไม่มีวันล่วงรู้ได้เลยเป็นอันขาดว่าพระภิกษุสงฆ์รูปใดบ้างที่เป็นพระอริยบุคคล นอกจากการคาดคะเนเท่านั้น 
          ทุกวันนี้มีคนกล่าวคาดคะเน สดุดีพระเถระต่าง ๆ เป็นอันมาก ทั้งที่มรณภาพไปแล้วก็มี ยังมิได้มรณภาพก็มี ว่าองค์นั้นก็เป็นพระอรหันต์ องค์โน้นเป็นพระอริยบุคคล ฯลฯ ดูช่างมากมายหลายองค์เหลือเกิน จึงอาจผิดก็ได้ ถูกก็ได้ เพราะผู้กล่าวนั้นมิใช่พระอริยบุคคล 
          โดยที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นพระอริยบุคคล ท่านธมฺมวิตกฺโกก็เป็นพระอริยบุคคล ทั้งสององค์ต่างก็เป็นพระอริยบุคคลด้วยกัน ฉะนั้นเมื่อมีการสร้างรูปสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเถระ) แห่งวัดเทพศิรินทราวาส ไม่ว่าจะเป็นรูปเหรียญเนื้อโลหะ หรือรูปพระผงก็แล้วแต่ เมื่อได้นำไปถวายให้ท่านธมฺมวิตกฺโกแผ่เมตตาประจุพลังความศักดิ์สิทธิ์ให้ พระเครื่องหรือเหรียญนั้นก็จะ "แรง" เป็นยิ่งนัก ด้วยได้รับกระแสพลังความศักดิ์สิทธิ์ถึงสองต่อ คือ "แรง" เป็นทวีคูณเลยทีเดียว ยิ่งเป็นรูปท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ และท่านธมฺมวิตกฺโกล้วนประเสริฐสูงส่งสององค์คู่กันก็ยิ่งทวีความสำคัญยิ่งขึ้นไปอีก 
          นี่เป็นทรรศนะของนักเลงพระเครื่องผู้นิยมบูชาในท่านธมฺมวิตกฺโก 
 
 
 
ตะกร้าพระเครื่อง

ดูตะกร้าพระเครื่อง
แจ้งการชำระเงิน
ตรวจสอบวันจัดส่ง
สถานะการส่งพระเครื่ง

พระเครื่องแนะนำ

25-2-66
พระบูชารูปเหมือนสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เจริญ


โชว์ บาท

25-2-66
พระรูปเหมือนใบธิ์ เนื้อนวโลหะ ปี 2512 แบบตอกโค๊ด


30000 บาท

25-2-66
พระนาคปรกใบขนุนเนื้อชินสังฆวานร พระสวยเดิม


9500 บาท

25-2-66
พระนาคปรกใบโพธิ์ 7 เศียร พิมพ์เล็กเนื้อนวโลหะ


AC บาท
บูชาแล้ว

25-2-66
เหรียญกนกข้างพิมพ์ใหญ่บล็อก ม.มีจุด (นิยม)


18500 บาท

25-2-66
พระไตรภาคีพิมพ์รูปเหมือนใหญ่เลี่ยมทองอย่างหนา


BD บาท
บูชาแล้ว

24/2/2566
พระปิดตา พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ เนื้อผงใบลาน ฝังตะกรุด


57000 บาท

24/2/2566
เหรียญเขียวในโลง หายาก เป็นเหรียญที่ใส่ไว้ในโลงท่านฯ


โทรถาม บาท

24/2/2566
พระสมเด็จ 3 ชั้นหลังยันต์นูน (เนื้อน้ำอ้อย)พิมพ์จัมโบ้


8000 บาท

21/02/66
เหรียญหลังเต่ารุ่นแรก บล็อกยันต์เคลื่อน


48000 บาท

6/10/65
เหรียญเขียวในโลง (เหรียญเอเชียนเกมส์) หายาก


โทรถาม บาท

6/10/65
พระผงหลวงพ่อพรหม รุ่นฉลองมณฑป พิมพ์ระฆังใหญ่


โทรถาม บาท

9/8/65
พระกริ่งสายฟ้า ตอกโค๊ต 1 ตัว


โทรถาม บาท

28/06/63
พระบูชารูปเหมือนท่านเจ้าคุณนรฯ รุ่นแรกหน้าตัก 5 นิ้ว


โทรถาม บาท

27/12/61
ออกใบรับรองพระแท้ ตอนนี้ท่านสามารถออกใบรับรองพระแท้ได้แล้วนะครับ ในนามร้านศักดิ์ ตลิ่งชัน


บาท

27/12/61
ออกใบรับรองพระแท้ ตอนนี้ท่านสามารถออกใบรับรองพระแท้ได้แล้วนะครับ ในนามร้านศักดิ์ ตลิ่งชัน


บาท

27/12/61
ออกใบรับรองพระแท้ ตอนนี้ท่านสามารถออกใบรับรองพระแท้ได้แล้วนะครับ ในนามร้านหมีพูห์ ปู่ทิม


บาท

27/12/61
ออกใบรับรองพระแท้ ตอนนี้ท่านสามารถออกใบรับรองพระแท้ได้แล้วนะครับ ในนามร้านโต้ ท่าพระจันทร์


บาท

19/12/61
เหรียญหลังเต่า บล็อกยันต์เคลื่อน สภาพสวยเดิม ๆ จมูกโด่ง ผิวดี สภาพนี้หายากแล้วครับ


G บาท
บูชาแล้ว

3/10/61
พระสมเด็จวัดวิเวกวนารามหลังยันต์นูนปั้มยันต์หมึก


โทรถาม บาท

22/9/60
พระรูปเหมือนปั๊ม พิมพ์เตารีดหลังยันต์ เนื้อตะกั่วชุบทอง สภาพสวยเดิม ๆ


โทรถาม บาท

25/07/2560
เหรียญเม็ดแตง หน้าผาก 3 เส้นปีกกา หัวขีด มาพร้อมเลี่ยมจับขอบฝังเพชร


โทรถาม บาท

26-04-60
ออกใบรับรองพระแท้
ตอนนี้ท่านสามารถออกใบรับรองพระแท้ได้แล้วนะครับ ในนามร้านศักดิ์ ตลิ่งชันในสายพระเครื่องของท่านเจ้าคุณนรฯ


โทรถาม บาท

11-4-60
ขันน้ำมนต์ วัดเทพศิรินทราวาส สร้างปี 2495 สภาพสวยเดิม ๆ สร้างน้อย


โทรถาม บาท

1-2-60
เหรียญกนกข้างพิมพ์ใหญ่ เนื้อเงิน บล๊อกนิยมสวยมาก มาพร้อมตลับทอง


โทรถาม บาท

พระเครื่องแนะนำทั้งหมด